นั้น แต่ทุกขสัจจะกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลทั้งหมด
กำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง
ผลจิตในอรูปภูมิก็ดี มัคคสัจะไม่ใช่กำลังเกิด และทุกขสัจจะก็ไม่ใช่
กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ ทุกขสัจจมูละ มัคคสัจจมูลี
ทุกขสัจจมูล จบ
สมุทยสัจจมูล
สมุทยสัจจมูละ มัคคสัจจมูลี :-
[848] สมุทยสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, มัคค-
สัจจะก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งมัคคจิต สมุทยสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่มัคคสัจจะกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง
ตัณหาวิปปยุตตจิตและมัคควิปปยุตดจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ
อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิก็ดี สมุทยสัจจะไม่ใช่กำลังเกิด
และมัคคสัจจะก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า มัคคสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด,
สมุทยสจัจะก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา มัคคสัจจจะไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น แต่สมุทยสัจจะกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งมัคค-
วิปปยุตตจิตและตัณหาวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่
ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี มัคคสัจจะไม่ใช่กำลังเกิด และ
สมุทยสัจจะก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ สมุทยสัจจมูละ มัคคสัจจมูลี
สมุทยสัจจมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก จบ
อตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
ทุกขสัจจมูล
ทุกขสัจจมูละ สมุทยสัจจมูลี:-
[849] ทุกขสัจจะเคยเกิดแก่บุคคลใด, สมุทยสัจจะก็เคย
เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ใช่.
ก็หรือว่า สมุทยสัจจะเคยเกิดแก่บุคคลใด, ทุกขสัจจะก็เคยเกิด
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ใช่.
จบ ทุกขสัจจมูละ สมุทยสัจจมูลี
ทุกขสัจจมูละ มัคคสัจจมูลี :-
[850] ทุกขสัจจะเคยเกิดแก่บุคคลใด, มัคคสัจจะก็เคยเกิด
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
บุคคลผู้ยังไม่เข้าถึงความเป็นผู้เคยรู้อริยสัจ 4 มานั้น ทุกขสัจจะ
เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่มัคคสัจจะไม่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,